หลายคนคงเผชิญกับสายฝนที่เข้ามากระหน่ำ!!!
จนบางครั้งก็ทำให้สุขภาพของเรา ต้องล้มป่วย โดยอาการทั่วไปที่พบเจอในฤดูนี้คือ
มีไข้ จาม มีน้ำมูก หนาวสั่น หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็น หวัด นั้นแหละครับ
ซึ่งหลายคนก็ใช้วิธีการกินยาปฎิชีวนะ ซึ่งวิธีดังกล่าวขอให้ท่านอ่าน รายละเอียดจากlink นี้ครับ
2 วิธีแนวVintage ซึ่งยังใช้ได้ในปัจจุบันในการรักษาและป้องการอาการหวัดง่ายๆ ดังนี้
1.การแช่เท้าด้วยน้ำอุ่น
การแช่เท้าด้วยน้ำอุ่น เป็นวิธีที่ช่วยปรับสภาพสมดุลย์ในร่างกายอย่างนึง ดังจะเห็นได้ว่า ที่เท้าจะมีจุดสัมพันธ์กับอวัยวะของร่างกาย ซึ่งในการนวดเท้าเพื่อบำบัด
ข้อดีอีกประการในการแช่เท้า คือ ช่วยลดความเครียดบริเวณกล้ามเนื้อที่เท้า โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ใส่รองเท้าส้นสูง หรือต้องทำงานที่ต้องยืนนานๆ การแช่เท้านั้นจะทำให้ผู้แช่ รู้สึกสบาย และผ่อนคลายอีกทางนึง
คำแนะนำในการแช่เท้า
ควรแช่ก่อนอาบน้ำ ประมาณ 30 นาที ระหว่างการแช่เท้า ควรจิบเครื่องดื่มอุ่นๆ เพราะขณะทำการแช่เท้า ร่างกายจะสูญเสียเหลื่อ เนื่องจากร่างกายจะขับเหงื่อออกมา
ดังนั้น หากเป็นไปได้ ควรสวมเสื้อผ้า แบบสบายๆ และควรทำการแช่เท้าในห้องอุณหภูมิปรกติ ไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศ หรือ พัดลมเป่าตรงๆ กับผู้แช่เท้า และสิ่งสำคัญ ผู้ที่มีอาการมึนเมาจากแอลกอฮอล์ ไม่แนะนำให้แช่เท้าครับ
การเแช่เท้าที่เหมาะสมนั้น ราวๆ 10 -15 นาที ขณะที่แช่ หากน้ำมีความร้อนมากเกินไป ให้ผสมน้ำอุณหภูมิห้อง ให้น้ำร้อนราว 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป ข้อมูลเพิ่มเติมที่
2.การดื่มน้ำขิงร้อน
ขิงมีสรรพคุณในการใช้ในการแก้หวัด และแก้ไอ ซึ่งได้มีการศึกษาพบว่า “ขิง” หรือชื่อวิทยาศาสตร์ : Zingiber officinale Rosc. มีสารหลายชนิดที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ และมีการทดลองพบว่า น้ำขิงต้ม ทำให้เม็ดเลือดขาวชนิดแมคโครฟาจ (Macrophage) จับกินไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณค่าภูมิปัญญาอันเก่าแก่ในการใช้ประโยชน์จากขิง
รายละเอียดเพิ่มเติมที่
สำหรับการทำน้ำขิงนั้น มีส่วนผสม ดังนี้
- ขิงแก่สด 1 ถ้วย
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสะอาด 3 ลิตร
วิธีทำ
1. ล้างขิงให้สะอาด แล้วนำมาทุบให้พอบุบๆ โดยไม่ต้องขูดเปลือกทิ้ง
2. ต้มขิงกับน้ำให้เดือดแล้วลดไฟลง เคี่ยวด้วยไฟอ่อนไปเรื่อยๆ จนน้ำขิงกลายเป็นสีเหลือง
3. เติมน้ำผึ้ง หรือ น้ำตาลทรายแดงตามชอบ
สำหรับท่านไหนที่ได้ทดลองทำแล้ว อาการดีขึ้น แข็งแรงมากขึ้น ก็ขอให้รักษาสุขภาพ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และ ทานอาหารครบห้าหมู่ แต่หากว่าได้ปฎิบัติแล้วอาการไม่ดีขึ้น ขอให้ไปพบแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาต่อไปนะครับ
ขอให้ทุกท่านๆมีสุขภาพแข็งแรงกันถ้วนหน้าตลอดไปนะครับ
ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยคุณ
จาก
Credit
http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/dic/knowledge_full.php?id=19
https://i.ytimg.com/vi/o4LEBYPvq1k/maxresdefault.jpg
http://g01.a.alicdn.com/kf/HTB1pc5tKFXXXXc7XXXXq6xXFXXXS/Barrel-font-b-foot-b-font-font-b-bath-b-font-barrels-of-barrel-bubble-font.jpg
http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=3209294
http://pad1.whstatic.com/images/thumb/3/3b/Take-Care-of-Yourself-When-You're-Sick-Step-5-Version-2.jpg/aid1179693-728px-Take-Care-of-Yourself-When-You're-Sick-Step-5-Version-2.jpg
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/487052
http://www.vcharkarn.com/uploads/201/201611.jpg
http://infographic.mthai.com/wp-content/uploads/2015/04/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น