เราเริ่มการทดสอบด้วยการคำนวณการใช้น้ำยา โดยครั้งนี้เราใช้น้ำยาสำหรับถังซักขนาด 23 กิโลกรัม กับน้ำยา CLN WASH 450 ml. ซึ่งจากการสอบถาม โดยปรกติจะใช้ผงซักฟอกแบบน้ำยี่ห้อนึง ประมาณ 750 ml. (พี่พนักงานบอกว่า 1ถ้วยครึ่ง)
ทดสอบผลิตภัณฑ์กับการซักผ้าแบบอุตสาหกรรม โดย CLN
เนื่องจากได้รับเชิญให้นำเสนอผลิตภัณฑ์กับผู้ให้บริการซํกผ้าชั้นนำรายนึง โดยจะให้บริการเฉพาะ ธุรกิจสปา โรงแรม และ คลีนิกความงามทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล
โจทย์ที่ท้าทาย CLN ในคราวนี้คือ
1.ผ้าที่มาจากสปา จะมีความมันจากน้ำมันนวดที่ให้บริการลูกค้า
2.ผ้าที่มาจากคลีนิกความงาม จะมีคราบครีมที่ยากต่อการซัก
3.ผ้าที่มาจากโรงแรม กับกลิ่นเหงื่อไคล้ และคราบสกปรก
งานนี้บอกได้เลยว่า นี้คือความท้าทายของเรา แต่เราจะคืนความสะอาดของผ้า พร้อมความนุ่มในครั้งเดียว
ก่อนทำการทดสอบ เราได้ทำการสัมภาษณ์พนักงานที่ปฎิบัติหน้าที่ จึงทราบถึงปัญหา และวิธีการแก้ปัญหาที่ทำมาโดยตลอด หลายครั้งที่ผ้าที่มามีกลิ่นAroma ก็ต้องแก้ปัญหาโดยการเพิ่มสารเคมีฟอกขาว ซึ่งข้อดีคือผ้าจะกลับมาขาว แต่ต้องแลกด้วยผ้าที่กระด้าง ซึ่งวิธีแก้ผ้าที่กระด้างคือการใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม ซึ่งการทำแบบนี้หลายๆครั้ง จะทำให้อายุของผ้าสั้นลง
หลังจากผ่านการซักไป 45 นาที ผ้าก็ได้ออกมา จึงให้พี่พนักงานลองทดสอบดมด้วยตัวเอง พบว่าไม่มีกลิ่นติดค้างเหมือนน้ำยาที่เคยใช้ ผ้าขาว สะอาด และ ยังนุ่มด้วย
หลังจากทำการซักแล้ว เราก็นำผ้าไปปั่นสลัดน้ำออก แล้วจึงนำไปอบแห้ง ความสว่างขาว ของผ้าที่เพิ่งผ่านการซัก สลัด แล้วนำมาอบ ยิ่งเพิ่มความขาวอย่างน่าประหลาดใจ
สรุป
เราได้ผลการทดสอบเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก ทั้งจากพี่พนักงาน
และ ท่านเจ้าของกิจการได้มาดูด้วยตัวเอง ผลที่ได้รับคือ
1.ใช้ CLN WASH ในการซักอย่างเดียวเท่านั้น
2.ไม่ได้ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มใดๆ หรือสารฟอกขาวใดๆเพิ่มเติมทั้งสิ้น
3.ก่อนทำการซัก ไม่ได้ล้างถัง ซึ่งปรกติทุกครั้งต้องล้างด้วยเคมีชนิดนึงก่อนการซักทุกครั้ง การใช้ CLN WASH จึงซึ่งช่วยลดขั้นตอนการทำงานได้มากและยังช่วยประหยัดน้ำและพลังงานอีกทาง